สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่เดี่ยวนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Wireless Charging หรือการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย ซึ่งหลายคนสงสัยว่ามันคืออะไร ไม่มีสายจะชาร์จแบตได้อย่างไร แล้วมีข้อดีข้อเสียอย่างไร วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ Wireless Charging กันให้มากขึ้นครับ
หลักการทำงานของ Wireless Charging อาจเรียกอีกชื่อว่า Inductive charging หรือการชาร์จประจุไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำ ในที่นี่ก็คือกาหนี่ยวนำที่ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าชาร์จเข้าไปในแบตเตอรี่มือถือ
การชาร์จแบบประจุไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำมีข้อแตกต่างเกี่ยวกับการสูญเสียพลังงานที่แตกต่างกันไป และมีหลายเทคโนโลยี โดยเทคโนโลยีที่ใช้และได้รับความนิยมจะเป็นของ Wireless Power Consortium (WPC) Qi (อ่านว่า ชี่ “chee”) ถือเป็นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมและใช้กันมากในสมาร์ทโฟนเรือธงอย่างเช่น iPhone, Samsung หรือแม้แต่มือถือของ Google อย่าง Nexus
Qi มีมาตรฐานการส่งพลังงานไปยังอุปกรณ์ได้มากถึง 70% ซึ่งถือว่าสูญเสียพลังงานน้อยกว่าเจ้าอื่นๆ ทำให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าเจ้าอื่นพอสมควร และพอเป็นยี้ห้อที่ได้รับความนิยมและมาตรฐานไปแล้ว ทำให้เราสามารถใช้อุปกรณ์ที่ใช้มาตรฐานเดียวกันไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆได้
อีกมาตรฐานที่ใช้กันก็คือ AirFuel Alliance ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่าง A4WP และ PMA เพื่อต่อกรกับกลุ่ม WPC เจ้าของแบรนด์ Qi แต่ช่วงนี้ก็เห็นทาง AirFuel ก็ยังเงียบๆอยู่ปล่อยให้ Qi สร้างพันธมิตรและมีสมาชิกร่วมด้วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในทางทฤษฎีแล้วการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย จะทำให้ัแบตเตอรี่มีความร้อนมากพอสมควร ซึ่งความร้อนนี้เองอาจทำหให้แบตเตอรี่เครื่องที่ชาร์จแบบไร้สายเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ แต่ผู้พัฒนาหรือผู้ผลิตมือถือบางเจ้าก็มีวิธีจัดการกับเรื่องนี้ โดยการออกซอฟแวร์มาป้องกัน ตรวจสอบว่าหากเกิดความร้อนสูงเกินไปขณะชาร์จแบตเตอรี่ ตัวเครื่องจะหยุดทำการชาร์จทันที รอจนกว่าตัวเครื่องจะเย็นลงค่อยกลับมาชาร์จใหม่ จะช่วยเพิ่มระยะเวลาการชาร์จได้ ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นข้อเสียของมือถือบางเจ้าที่ไม่มีระบบป้องกันตรงนี้ ทำให้เครื่องที่ชาร์จแบบไร้สายนานๆ จะเกิดอาการร้อน และเร่งการเสื่อมของแบตเตอรี่ให้เร็วยิ่งขึ้น
ข้อมลูจาก
www.modify.in.th